สาเหตุของโรคข้อเข่าเสื่อม + วิธีดูแลตัวเอง เมื่อเป็นโรคข้อเข่าเสื่อม

โรคเข่าเสื่อมหรือว่าข้อเข่าเสื่อม เป็นโรคที่พบได้บ่อย ในหมู่คนสูงอายุและคนอ้วนที่มีน้ำหนักตัวเกินมาตรฐาน มักจะเป็นเรื้อรังตลอดชีวิต แต่จะไม่มีอันตรายร้ายแรง นอกจากอาการปวดทรมานเดินไม่ถนัด ขาโก่ง เข่าทรุด ส่วนที่ทำให้เกิดอันตรายร้ายแรงกับชีวิต ส่วนใหญ่มักเกิดจากการใช้ยาอย่างผิดวิธี เพราะฉะนั้นเราจึงต้องทำความรู้จักกับโรคข้อเข่าเสื่อม ทั้งสาเหตุของการเกิดโรคและวิธีการป้องกัน การดูแลตัวเองเมื่อเป็นโรค เพื่อบรรเทาอาการเจ็บปวดจากโรคดังกล่าวและไม่ให้เป็นมากขึ้น

สาเหตุของโรคข้อเข่าเสื่อม

การเกิดโรคข้อเข่าเสื่อมเกิดจากการเสื่อมชำรุด หรือการสึกหรอของข้อเข่าทำให้กระดูกอ่อนไม่สามารถเป็นเบาะรองรับน้ำหนัก มีการสูญเสียคุณสมบัติของน้ำหล่อเลี้ยงเข่า ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้งานมากจนเกินไป อาจเป็นเพราะอาการบาดเจ็บ หรือมีแรงกระแทกเยอะๆ โดยเฉพาะกับคนที่ต้องกีฬาหนักๆ หรือคนที่มีน้ำหนักด้วยเยอะๆ ทำให้กระดูกอ่อนที่บุอยู่ตรงบริเวณผิวข้อต่อสึกหรอ และเกิดกระบวนการซ่อมแซมก่อให้เกิดปุ่มกระดูกงอกรอบๆ ข้อต่อ ปุ่มกระดูกที่งอกบางส่วนจะหักหลุดเข้าไปในข้อต่อ ทำให้ไปขัดขวางการเคลื่อนไหวของข้อต่อบริเวณข้อต่อมีเสียงดังเวลาเคลื่อนไหว รวมไปถึงเกิดอาการเจ็บปวด ในกรณีที่ข้อเข่า มีการอักเสบก็จะมีการสร้างน้ำข้อเข่าเพิ่มทำให้เกิดการบวม ตึงขึ้นมาด้วยคนที่มีอาการการเสื่อมของข้อเข่ามากขึ้น ข้อเข่าก็จะมีการโก่งงอทำให้เกิดอาการปวดเข่าทุกครั้งที่มีการขยับเคลื่อนไหวจนขนาดของข้อเข่าใหญ่ขึ้นสุดท้ายผู้ป่วยต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุงในการเดินแต่ละครั้ง แต่เพราะความลำบากนี้ ทำให้ผู้ป่วยบางคน ไม่อยากเดินทำให้กล้ามเนื้อต้นขาลีบและไม่มีกำลังข้อจะติด ลักษณะเหมือนมีสนิมมาเกาะเท้า จนทำให้เหยียดขาได้ไม่สุด

นอกจากนี้ยังมีพฤติกรรม และความเคยชินในการใช้ชีวิตบางอย่าง ที่สามารถทำให้เกิดโรคข้อเข่าเสื่อมได้ เช่น ชอบนั่งยองๆ นั่งขัดสมาธิ นั่งพับเพียบ การเดินขึ้นลงบันได นั่งงอเข่านานๆ

วิธีการดูแลตัวเองเมื่อมีอาการปวดเข่า

1.หลีกเลี่ยงท่าต่างๆ ที่อาจก่อให้เกิดอาการให้ปวดเข่า เช่น นั่งยองๆ นั่งสมาธิ นั่งพับเพียบ เป็นต้น ถ้าจำเป็นต้องนั่ง ควรนั่งเก้าอี้ แทนการนั่งพื้น
2.ขอให้หลีกเลี่ยงการเดินขึ้น ลง บันได ถ้ารู้สึกปวดเข่าเพียงข้างเดียว เวลาที่ต้องเดินขึ้น หรือลงบันไดให้เดินขึ้นทีละขั้น โดยก้าวขาข้างที่ไม่ปวด ขึ้นก่อนแล้วยกขาข้างที่ปวดขึ้นตามไปวางบนขั้น ที่ขาไม่ปวดวางอยู่ อย่าก้าวข้ามไปอีกขั้นหนึ่งเลยทันที ส่วนขาลงบันได ก็ก้าวขาข้างที่ปวด ลงก่อน แล้วก้าวขาข้างที่ไม่ปวดตามไปการเดินขึ้น-ลงบันได ทีละขั้นในลักษณะนี้ ขาข้างที่ปวด จะไม่มีการงอเข่าเป็นการบรรเทาอาการปวดให้ลดลงได้
3. ควรเปลี่ยนท่าทางบ่อยๆ ไม่ใช่นั่งหรือยืนเป็นเวลานานๆ โดยเฉพาะคนที่ต้องนั่งทำงานออฟฟิศ ให้ลุกออกมาเดินยืดเส้นยืดสายบ้างคนที่ต้องยืนนานๆ ก็ต้องหาเวลานั่งพักบ้างเช่นกัน
4.ในกรณีที่รู้สึกปวดเข่ามาก ให้ประคบด้วยผ้าชุบน้ำร้อน หรือลูกประคบ หรือกินยาแก้ปวด ครั้งละ 1-2 เม็ด เพื่อบรรเทาอาการปวด ซ้ำได้ทุกๆ 6 ชั่วโมง
5.คนที่เดินแล้วรู้สึกปวดเข่า ใช้ไม้เท้าช่วยพยุงตัวไว้ หรือหาราวเกาะ
6.ถ้าเป็นคนอ้วน น้ำหนักตัวมาก ควรหาทางลดน้ำหนัก โดยการควบคุมอาหาร และออกกำลังกายให้มากขึ้น แต่อย่าเลือกวิธีการออกกำลังกายที่เน้นแรงกระแทก
7. เมื่ออาการปวดเข่าเริ่มดีขึ้น ควรรู้จักดูแลตัวเอง ด้วยการบริหารกล้ามเนื้อเข่าอย่างสม่ำเสมอการทำท่ากายบริหาร สำหรับโรคข้อเข่าเสื่อม ด้วยการนั่งพิงพนักเก้าอี้ แล้วยืดขาไปข้างหน้า จากนั้นกระดกปลายเท้าขึ้น และเกร็งไว้ซักครู่ ทำแบบนี้ข้างละ 10 ครั้ง เริ่มจากไม่ต้องถ่วง น้ำหนัก แล้วต่อไปก็ค่อยๆ ถ่วงน้ำหนัก เช่น ใส่ถุงทรายเอาไว้ที่ปลายเท้า เริ่มจาก 0.3 กิโลกรัม เป็น 0.5กิโลกรัม0.7 กิโลกรัม และ 1 กิโลกรัม โดยเพิ่มไปเรื่อยๆ ทุก 2-3 สัปดาห์จนยกได้ 2-3 กิโลกรัม ข้อเข่าก็จะแข็งแรงขึ้น และลดอาการปวดลงได้
8.ควรหลีกเลี่ยงการซื้อยามากินเอง เช่น ใช้ยาชุด หรือยาลูกกลอนเพราะยาเหล่านี้ ถึงแม้ว่าอาจจะช่วยบรรเทาปวดได้ดี แต่ก็มักจะมีตัวยาอันตราย จำพวกสเตียรอยด์ผสมอยู่ ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลร้ายแรงตามมาได้
โรคข้อเข่าเสื่อมมักจะเป็นเรื้อรังตลอดชีวิตยกเว้นในคนไข้ที่รักษาด้วยวิธีการผ่าตัด เปลี่ยนข้อเข่าเทียม อาการจะหายดีและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ภายหลังจากการผ่าตัดไปแล้ว

วิธีป้องกัน ไม่ให้เป็นโรคข้อเข่าเสื่อม

1.อย่าให้น้ำหนักตัวมากเกินไป
2.อย่าใช้แรงกระแทกที่ข้อเข้าเยอะเกินไป เช่นการกระโดด หรือการออกกำลังกาย แบบหนักๆ
3.เลี่ยงการนั่งงอเข่า และการเดินขึ้นลงบันไดบ่อยๆ


ขอบคุณรูปภาพจาก: limbrel.com, ladycarehealth.com
ขอบคุณข้อมูลต้นฉบับ: http://www.lady108.com
ขอบคุณรูป : https://www.pexels.com

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *